|
|
|
|
สถิติ
|
ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6730010 การเปิดหน้าเว็บ:9599881 Online User Last 1 hour (0 users)
|
|
 |
|
|
|
|
ระวัง! เครื่องสำอางนาโน อย.แฉอ้างสรรพคุณเกินจริง |
|
|
|
17 เมษายน 2556
|
|
|
|
วันที่: 17 เมษายน 2556 ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ลิงค์: www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000045135
อย.ลั่นเวชสำอางแค่ศัพท์ทางการตลาด ไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ชี้จดแจ้งเป็นเครื่องสำอางต้องไม่มีสารที่เป็นยา หากมีต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาเท่านั้น แฉเครื่องสำอางนาโนแค่วัตถุดิบเท่านั้นที่เป็นนาโน ไม่ใช่เครื่องสำอางสำเร็จรูปที่มีประสิทธิภาพเป็นนาโน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ขณะนี้กระแสผลิตภัณฑ์เวชสำอาง (Cosmeceutical Products) กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก รวมถึงมีการโฆษณาผ่านทางสื่อต่างๆ อย่างครึกโครม ซึ่งในแง่ของกฎหมายทั้งไทยหรือต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ล้วนไม่มีข้อกำหนดหรือกฎหมายเกี่ยวกับเวชสำอางออกมารองรับ เพราะเวชสำอางเป็นนิยามศัพท์ที่ผู้ประกอบการเรียกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่แสดงคุณสมบัติหรือสรรพคุณในด้านบำบัด บรรเทา และรักษา ส่วนมากจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินกว่าเรื่องความสะอาดและความสวยงาม ทุกวันนี้เมื่อไปตรวจผลิตภัณฑ์เวชสำอางพบว่า แสดงจุดประสงค์การใช้เป็นเครื่องสำอาง แต่แสดงสรรพคุณในด้านบำบัด บรรเทา รักษา จึงถือว่าเป็นการโฆษณาอวดอ้างเกินจริง ซึ่งการรับจดแจ้งเครื่องสำอางจะได้รับการกลั่นกรองว่าต้องใช้รายการสารตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น เพราะเครื่องสำอางมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาดและความสวยงาม หากมีส่วนผสมของยาจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาเท่านั้น รองเลขาธิการ อย.กล่าวและว่า ในการพิจารณาเกี่ยวกับการโฆษณาเครื่องสำอาง ต้องอยู่ในขอบข่ายของความสะอาด และความสวยงามเท่านั้น ไม่อาจระบุสรรพคุณการบำบัด บรรเทา รักษาโรค ซึ่งเป็นสรรพคุณทางยาได้ นพ.ไพศาล กล่าวอีกว่า สำหรับคลินิกเสริมความงามที่นำผลิตภัณฑ์มาฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนัง ถือว่านำเครื่องสำอางไปใช้ในทางที่ผิด ส่วนเครื่องสำอางที่กล่าวอ้างในรูปของนาโน ตามข้อเท็จจริงหมายถึงการนำวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางที่มีอนุภาคเล็กไม่เกิน 100 นาโนเมตรมาใช้ผสมในเครื่องสำอาง ซึ่งมิได้หมายความว่าเครื่องสำอางสำเร็จรูปนั้นๆ ผลิตโดยนาโนเทคโนโลยี ส่วนประสิทธิภาพที่กล่าวอ้างจำเป็นต้องศึกษาทางด้านวิชาการและตรวจสอบกันอีกต่อไป
|
|
|
|
|
|