search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6515642
การเปิดหน้าเว็บ:9358697
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  แพทย์เตือน อย่าเพิ่งเชื่อ "ทุเรียนเทศแก้มะเร็ง" เสี่ยงตับ-ไตวายเฉียบพลัน
  21 กรกฎาคม 2558
 
 


ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์
ลิงค์: www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000082386     
    


        หมอจุฬาฯ ชี้คนไข้กิน "ใบทุเรียนเทศ" อ้างรักษามะเร็ง เสี่ยงตับ-ไตวาย แถมเสียโอกาสรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ระบุยังอยู่ในช่วงการวิจัยสารสกัด ข้อมูลยังไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง เพราะปรากฎว่าเป็นพิษต่อระบบประสาท
       
       วันนี้ (21 ก.ค.) นพ.เพชร อลิสานันท์ แพทย์ประจำหน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา แผนกรังสีวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้พบกระบวนการขายยาที่ทำมาจากใบทุเรียนเทศ ชาใบทุเรียนเทศต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งทางโซเชียลมีเดีย เคเบิลทีวี และรถเร่ โดยอ้างว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ทุกชนิด ทั้งที่จริงแล้วเรื่องนี้กำลังอยู่ในช่วงการวิจัยในห้องทดลอง ว่าสารสกัดใบทุเรียนเทศมีปฏิกิริยากับเซลล์มะเร็งหรือไม่ ซึ่งจากการศึกษาพบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งตับและมะเร็งเต้านมบางชนิดเท่านั้น ที่สำคัญยังไม่ถึงขั้นพัฒนาเป็นยาได้ เพราะยังต้องมีการทดลองในสัตว์ทดลองและในมนุษย์อีกเพื่อประเมินประสิทธิภาพและผลข้างเคียงระยะยาว ก่อนจะนำมาใช้เป็นยาจริงๆ เพราะใบทุเรียนเทศไม่ได้ประกอบไปด้วยสารที่อาจมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งเท่านั้น แต่ยังมีสารประกอบอีกมากมายที่ยังไม่ทราบว่ามีผลอย่างไรต่อสุขภาพ
       
       นพ.เพชร กล่าวว่า การขายโดยอ้างสรรพคุณเช่นนี้ทำให้มีผู้ป่วยมะเร็งหลงผิดไปรับประทานเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนไข้โรคมะเร็งที่รับประทานทุเรียนเทศ ยังมีผลเกิดการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติ คล้ายกับผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน เนื่องจากทุเรียนเทศเป็นพิษต่อระบบประสาท ซึ่งบางงานวิจัยพบว่า พิษทุเรียนเทศสามารถผ่านชั้นเยื่อหุ้มสมองเข้าสู่เนื้อสมองโดยตรงได้อีกด้วย และการรับประทานอย่างต่อเนื่องทำให้ตับและไตวายได้ จนถึงเสียชีวิตได้ในที่สุด นั่นก็คือไม่ได้ตายเพราะโรคมะเร็ง
       
       "สำหรับ รพ.จุฬาฯ พบว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งเข้ารับการรักษาตัวจากภาวะตับและไตวายเฉียบพลัน จากการรับประทานทุเรียนเทศจำนวนมาก โดยเป็นผู้ป่วยในพื้นที่ กทม.กว่าร้อยละ 60 ที่เหลือส่งตัวมาจากต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อการรักษามะเร็งตามปกติที่ต้องให้ยาเคมีบำบัดด้วย เพราะเคมีบำบัดจะถูกขับถ่ายออกทางไต แต่เมื่อเกิดภาวะไตวายก็ต้องหยุดให้ยาเคมีบำบัด เพื่อรอให้ไตกลับมาทำงานเป็นปกติก่อน ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 1-2 เดือน เท่ากับสูญเสียโอกาสทางการรักษา เพราะระหว่างนี้โรคอาจลุกลามได้ ซึ่งผู้ป่วยที่เข้ามารักษานั้นส่วนใหญ่เป็นโรคมะเร็งระยะที่ 1 ซึ่งมีโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดได้" นพ.เพชร กล่าว
       
       พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า อยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารบนสื่อต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องทางการแพทย์ ถ้ายังไม่แน่ใจก็ขอให้หาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โทร 02 256 4334 หรือให้ปรึกษาแพทย์ดีกว่าเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
       
       นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ใบทุเรียนเทศถ้าเป็นใบแห้งแล้วนำมาต้มสกัดนั้น พบว่ามีฤทธิ์ในการฆ่าเซลล์มะเร็งได้ แต่เป็นเพียงกระบวนการวิจัยในขั้นหลอดทดลองในห้องเล็บ ซึ่งการที่ใบทุเรียนเทศมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งได้ ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถนำมารักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ในทันที ทั้งนี้ การจะนำใบทุเรียนเทศแห้งมาต้มกินเพื่อรักษามะเร็งตับก็อยู่ที่การใช้วิจารณญาณของผู้ป่วย ถือว่าเป็นแค่เพียงทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่มีทางเลือกรักษาแล้วเท่านั้น เนื่องจากทางการแพทย์ยังไม่มีการวิจัยว่ารักษามะเร็งได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อบ่งชี้ที่ว่าใบทุเรียนเทศสดมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์ดีในร่างกาย ดังนั้น จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง